10 นักเตะที่ย้ายออกจากสโมสรในวัยเด็ก เพื่อคว้าแชมป์

อนาคตของ แฮร์รี่ เคน กองหน้าของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส กลายเป็นประเด็นพูดคุยอยู่ในเวลานี้ หลังไม่สามารถประสบความสำเร็จ และคว้าแชมป์ใดๆ มาได้เลย นับตั้งแต่ขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ แม้จะมีสถิติการทำประตูไปได้มากมาย โดยใกล้เคียงที่สุดก็คือ นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลที่แล้ว

โดยบทความนี้จะยกตัวอย่าง 10 นักเตะที่ย้ายจากสโมสรที่อยู่มาตั้งแต่เป็นดาวรุ่ง ก่อนที่จะโหยหา และย้ายออกมาคว้าแชมป์กับสโมสรใหม่

อันดับ 10 แกรี่ ลินิเกอร์ (เลสเตอร์ ซิตี้ มา เอฟเวอร์ตัน)

เรื่องราวของ แกรี่ ลินิเกอร์ คล้ายกับ แฮร์รี่ เคน มากที่สุด ลินิเกอร์ เป็นดาวซัลโวให้กับ เลสเตอร์ 4 ฤดูกาล นับตั้งแต่ลงเล่นให้กับทีมในปี 1981 แม้จะลงเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน ได้เพียงปีเดียว แต่ก็ระเบิดฟอร์มทำประตูได้มากมาย และได้ย้ายไปยัง บาร์เซโลน่า ต่อด้วย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส โดยคว้าแชมป์ได้หลายรายการ

อันดับ 9 แฟร้งค์ แลมพาร์ด (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มา เชลซี)

แฟร้งค์ แลมพาร์ด เป็นที่รู้จักกันดี และไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมากเกี่ยวกับอดีตนักเตะรายนี้ นับตั้งแต่ย้ายมายังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในปี 2001 และลงเล่นจนถึงปี 2014 พร้อมกับการคว้ารางวัลส่วนตัวไปมากมาย รวมการคว้าแชมป์ 13 รายการ

อันดับ 8 เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส มา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม ย้ายออกจาก สเปอร์ส ในปี 1997 เพื่อมายัง แมนฯ ยูไนเต็ด และเป็นหนึ่งในนักเตะชุดประวัติศาสตร์ ในปี 1999 กับการคว้าเทรเปิ้ลส์แชมป์ ก่อนที่จะย้ายมายังทีมเก่าอีกครั้งในปี 2001 แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ยังคว้าแชมป์ไปได้ทั้งหมด 7 รายการกับทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

อันดับ 7 แอนดี้ แคร์โรล (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มา ลิเวอร์พูล)

แอนดี้ แคร์โรล ย้ายมายังแอนฟิลด์ ด้วยค่าตัวถึง 35 ล้านปอนด์ กับช่วงเวลาที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด หาความแน่นอนไม่ได้ในเดือนมกราคมปี 2011 แม้การย้ายมายัง ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์ลีก คัพ ได้เพียงรายการนี้ แต่ก็ยังสามารถพูดได้ว่าเป็นจุดสูงสุดที่ดีที่สุดในเส้นทางการค้าแข้งของแคร์โรล

อันดับ 6 อลัน สมิธ (ลีดส์ ยูไนเต็ด มา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ประเด็นดราม่าได้เกิดขึ้น เมื่อตอนที่ อลัน สมิธ เลือกย้ายมายังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในปี 2004 แม้จะเคยกล่าวว่า จะไม่มีทางเล่นให้กับสโมสรนี้ หลังอยู่กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นคู่อริกันอย่างชัดเจน แม้สุดท้ายบอร์ดบริหารของ ลีดส์ จะออกมายอมรับถึงการตัดสินใจขาย สมิธ เพราะปัญหาทางการเงิน กับการตกชั้นในปีนั้นแคมป์เบลล์ แทบจะเป็นเด็กก้นหม้อของ สเปอร์ส

อันดับ 5 โซล แคมป์เบลล์ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส มา อาร์เซน่อล)

แคมป์เบลล์ แทบจะเป็นเด็กก้นหม้อของ สเปอร์ส หลังลงเล่นให้กับทีมไปเกือบ 10 ปี แต่กลับตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม อาร์เซน่อล คู่แข่งร่วมกรุงลอนดอน แบบไม่มีค่าตัว ในปี 2001 ซึ่งเจ้าตัวก็ประสบความสำเร็จไปมากมาย รวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก ไร้พ่ายในฤดูกาล 2003-04

อันดับ 4 เกล็น ฮ็อดเดิ้ล (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส มา โมนาโก)

ฮ็อดเดิ้ล ใจเด็ด ตัดสินใจย้ายออกจากทีมในกรุงลอนดอน เพื่อไปร่วมทีมโมนาโก ในฝรั่งเศส แม้จะอยู่กับทีมมาถึง 17 ปี นับตั้งแต่เป็นดาวรุ่ง แม้จะคว้าแชมป์กับ สเปอร์ส ได้บ้าง แต่ในช่วงอายุ 29 ปี ซึ่งเป็นจุดพีคของนักเตะ ฮ็อดเดิ้ล จึงมองหาความท้าทายครั้งใหม่ โดยคว้าแชมป์ลีก เอิง ได้ในฤดูกาล 1987-88

อันดับ 3 ริโอ เฟอร์ดินานด์ (ลีดส์ ยูไนเต็ด มา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

เฟอร์ดินานด์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ยกตัวอย่างได้อย่างชัดเจน เมื่อย้ายจาก ลีดส์ มายังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในปี 2002 ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ และเป็นสถิติค่าตัวสูงที่สุดในตำแหน่งกองหลังเวลานั้น หลังไม่เคยคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลย ก่อนที่จะลงเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงปี 2002 ถึง 2014 คว้าแชมป์ได้ 15 รายการ รวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย

อันดับ 2 แอชลีย์ โคล (อาร์เซน่อล มา เชลซี)

อดีตแบ็คซ้ายชื่อดังของทีมชาติอังกฤษ ทำการหักหลังแฟนบอล อาร์เซน่อล ด้วยการย้ายมาร่วมทีมคู่แค้นในเมืองลอนดอน อย่าง เชลซี และเป็นการทีมยุคใหม่ ในปี 2006 แม้จะเคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ กับ อาร์เซน่อล ไปได้ แต่นับตั้งแต่นั้นมา ก็แทบจะกลายเป็น เชลซี ที่ผูกขาดในการคว้าแชมป์ และชัยชนะของทีมในกรุงลอนดอนแทน

อันดับ 1 เวย์น รูนี่ย์ (เอฟเวอร์ตัน มา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

กับประโยคอมตะ เมื่อตอนที่ รูนี่ย์ เปิดเสื้อพร้อมกับโชว์ข้อความว่า “ONCE A BLUE, ALWAY’S A BLUE” ซึ่งมีความหมายว่า “ครั้งหนึ่งมีเลือดสีฟ้า ก็จะขอมีเลือดสีฟ้าตลอดไป” ในเอฟเอ คัพ ปี 2002 แต่สุดท้ายแล้ว ก็ถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดึงตัวไปยัง แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2004 ด้วยค่าตัว 25.6 ล้านปอนด์ หลังไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ กับสโมสรในวัยเด็กได้ แต่มาประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งหมด 17 รายการ ก่อนที่จะย้ายไปยัง ดีซี ยูไนเต็ด ในปี 2018

เมื่อตอนที่ รูนี่ย์ เปิดเสื้อพร้อมกับโชว์ข้อความ

Author: hatori