
คักลาร์ โซยุนคู กองหลังทีมชาติตุรกีของ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เคยเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงย้ายมาใหม่ๆ และเขาบอกว่า เวลานี้เขาได้เรียนรู้มากมายจาก โคโล่ ตูเร่ สตาฟฟ์โค้ช “สุนัขจิ้งจอก” และรู้สึกว่าถิ่นคิง พาเวอร์ สเตเดี้ยม เปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ไปแล้ว ตอนนี้ โซยุนคู รู้จักทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆสนามซ้อมของ เลสเตอร์ เขากำลังมีความสุขในการหยอกล้อกับเพื่อนร่วมทีม “สุนัขจิ้งจอก” โดยดาวเตะวัย 23 ปี เดินจับมือทักทายทุกคนในสโมสร ซึ่งมันเป็นวัฒนธรรมจากตุรกีบ้านเกิดของเขา
หลังจากจบเซสชั่นการซ้อมในช่วงเช้า โซยุนคู กำลังผ่อนคลายร่างกาย เขาดูกระตือรือร้นอยู่เสมอ แม้ เลสเตอร์ จะเพิ่งแพ้ เซาแธมป์ตัน และ เบิร์นลี่ย์ ในเกมลีก 2 นัดล่าสุดที่ผ่านมา แต่ผลงานส่วนตัวปราการหลัง “ไก่งวง” ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบัน โซยุนคู พัฒนาตัวเองจนก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในแนวรับของ เลสเตอร์ ภายใต้การคุมทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือ ได้เรียบร้อยแล้ว และเขายังกลายเป็นที่ขื่นชอบของแฟนบอล “สุนัขจิ้งจอก” อีกด้วย อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ไฟร์บวร์ก ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน เป็นกองหลังที่มีรูปร่างดี มีสไตล์การเล่นที่แข็งแกร่ง และสง่างาม โดย โซยุนคู ยอมรับว่า มันเป็นความท้าทายในการต้องก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ แฮร์รี่ แมกไกวร์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ ที่ย้ายไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
เจ้าตัวยังเชื่อมั่นในตัวเองต่อไป
โซยุนคู กล่าวกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “ผมอยากจะบอกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การได้ลงเล่นเป็นประจำ เมื่อคุณได้ลงเล่น คุณก็สามารถพัฒนาฟอร์มได้ดีขึ้น นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าผู้จัดการทีมเชื่อมั่นในตัวผม นั่นทำให้ผมมั่นใจในตัวเอง และเรามีความสนุกสนานมากมายในการฝึกซ้อม มันเป็นบรรยากาศที่ดีมากๆ” โคล้ด ปูแอล อดีตโค้ชชาวฝรั่งเศส ของ เลสเตอร์ เป็นคนคว้าตัว โซยุนคู มาจาก ไฟร์บวร์ก ด้วยค่าตัว 19 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 และในยุคของ ร็อดเจอร์ส เขาก็พัฒนาตัวเองมาอย่างก้าวกระโดดจน “สุนัขจิ้งจอก” แทบขาดไม่ได้ไปแล้ว โซยุนคู ต้องการที่จะเป็นกองหลังสมัยใหม่ที่ดีที่สุดในโลก และสถิติต่างๆของเขาสนับสนุนความรู้สึกว่า เขาเป็นสู้ และมีความสงบเมื่ออยู่ในสนาม เขามีสถิติดีมากๆในการเล่นลูกกลางอากาศ และเขายังขึ้นเกมจากแนวรับด้วยบอลสั้นได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นสิ่งที่ ร็อดเจอร์ส ต้องการ
นอกจากนี้ โซยุนคู ยังมีสถิติการผ่านบอลไปข้างหน้าประสบความสำเร็จ 33 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากกว่า เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ กองหลังชาวดัตช์ ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง ที่มีสถิติ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่เขาระบุว่า ตัวเองไม่ลอกเลียนแบบการเล่นของใคร เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวตุรกี กล่าวต่อว่า “ผมมักจะมองดู และเรียนรู้จากคนอื่น ๆอยู่เสมอ แต่ผมไม่ได้พยายามเลียนแบบใคร หรือต้องการจะเป็นเหมือนใคร ผมพยายามพัฒนาสไตล์การเล่นของตัวเอง ผมเชื่อในทักษะของผม”

สกิลการเตะไม่ธรรมดา
ทักษะของ โซยุนคู ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจากการเล่นในตำแหน่งกองกลางในช่วงปีแรก ๆ ของเขาที่เริ่มเล่นฟุตบอลในลีกตุรกี นั่นส่งผลให้เขามีความมั่นใจอยู่เสมอในการครอบครองบอล แม้จะถูกไล่กดดันจากแนวรุกคู่แข่งก็ตาม “ผมพยายามเรียนรู้บางอย่างจากทุกเกมที่ผมได้ลงเล่น มันเกี่ยวกับการลดความผิดพลาดของผมเองให้น้อยที่สุด” โซยุนคู ยอมรับหลังจากที่เขาคิดย้อนกลับไปในจังหวะที่เคยทำผิดพลาดส่งผลให้ เลสเตอร์ เสียคะแนน ร็อดเจอร์ส กล่าวว่า “เขากระตือรือร้นที่จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นอยู่เสมอ และเขาเพิ่มคุณภาพของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เขาได้เล่นร่วมกับ จอนนี่ อีแวนส์ เป็นส่วนใหญ่ในเกมรับ และเขามักจะยืนเป็นกองหลังทางฝั่งซ้าย แต่ในบางเกมผมก็โยกเขามาทางขวา”
โซยุนคู กล่าวต่อว่า “ผมทำตามที่ผู้จัดการทีมบอก มันไม่สำคัญว่า ผมจะอยู่ทางซ้ายหรือขวา ผู้จัดการทีมทำได้ดีมากในแง่ของแท็คติค และทีมสตาฟฟ์ของเขาวิเคราะห์คู่แข่งมาเป็นอย่างดี และเราก็เล่นตามนั้นในเกม และสำหรับ อีแวนส์ เขายอดเยี่ยมมาก เขาพยายามช่วยเหลือผู้เล่นอายุน้อยเสมอ” ขณะเดียวกัน โซยุนคู ยังรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ ตูเร่ โค้ชทีมชุดแรกของ เลสเตอร์ อย่างมาก โดย ตูเร่ เป็นหนึ่งในทีมงานของ ร็อดเจอร์ส มาตั้งแต่สมัยยังคุม กลาสโกว์ เซลติก ในลีกสก็อตแลนด์ และ ตูเร่ ยังเป็นคนจัดให้มีการประชุมแบบตัวต่อตัวกับบรรดาผู้เล่นกองหลัง “สุนัขจิ้งจอก” เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดผ่านการวิเคราะห์วิดีโอเป็นประจำ
โซยุนคู กล่าวว่า “เราทุกคนทำผิดพลาดได้ และเขาบอกผมเมื่อผมทำผิดพลาด แต่เขายังแสดงให้ผมเห็นว่า ผมทำได้ดีแค่ไหน เขาเล่นให้กับทีมชาติไอโวรี่ โคสต์ และเล่นในพรีเมียร์ลีก มาอย่างมากมาย และเขามีเส้นทางอาชีพที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นผมจึงโชคดีที่เขาเล่นในตำแหน่งเดียวกันกับเขา โคโล่ เคยย้ายมาเล่นที่อังกฤษเช่นกันในช่วงที่เขาเป็นดาวรุ่ง เขาแบ่งปันประสบการณ์กับผม และความยากลำบากที่เขาเผชิญเมื่อเขามาถึงครั้งแรก มันช่วยผมได้มาก และการอยู่ในเยอรมนีก่อนที่จะมาอังกฤษทำให้ง่ายขึ้นเล็กน้อยในการปรับตัว แต่ โคโล่, เพื่อนร่วมทีมของผม และผู้คนมากมายที่สโมสรช่วยผมอยู่เสมอ” อดีตกองหลัง ไฟร์บวร์ก กล่าว
พร้อมลุยทุกปัญหาที่เข้ามา
โซยุนคู เป็นคนจริงจังในการเผชิญหน้ากับความท้าทายในการย้ายมายังเมืองผู้ดี เขาต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ดิ้นรนกับภาษาที่แตกต่าง วัฒนธรรม และสภาพอากาศที่ไม่คุ้นเคย แต่ดาวเตะวัย 23 ปี ก็ปรับตัวกับ เลสเตอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม ในตาราง Thscore รายชื่อผู้เล่นของเลสเตอร์ยังมีชื่อนักเตะรายนี้อยู่ใน 11 ตัวจริงเสมอ โซยุนคู ย้ายจากตุรกีมาเล่นในเยอรมันในวัยเพียง 20 ปี เขาเป็นนักฟุตบอลในลีก 2 ของแดนไก่งวงที่ได้ย้ายไปยังบุนเดสลีกา โดยแข้ง เลสเตอร์ เล่าต่อว่า “เราพูดในตุรกีอยู่เสมอ มันสำคัญมากว่า ไม่ว่าคุณจะทำงานที่ใดจงทำให้ที่นั่นกลายเป็นบ้านของคุณ ตั้งแต่วันแรกที่ผมมาถึง เลสเตอร์ ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มาจากแฟนบอล มันไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น พวกเขาสนับสนุนพวกเราทั้งทีม พวกเขารักสโมสรของพวกเขา เมื่อคุณทำผลงานได้ดี และเห็นแฟนบอลมีความสุข มันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจ” กองหลังตุรกี กล่าว
แฟนบอล เลสเตอร์ กำลังมีความสุขที่ทีมของพวกเขากำลังจะได้ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า และปัจจุบันยังมีลุ้นถ้วยคาราบาว คัพ และเอฟเอ คัพ แต่ โซยุนคู ระบุว่า เขายังไม่มองไปไกลนัก และขอโฟกัสในเกมต่อไปเท่านั้น “มีเส้นทางอีกยาวไกล เราไม่ได้พูดถึงเป้าหมายที่เรามุ่งไปไกลนัก แต่เรามุ่งมั่นแค่เกมต่อไปเท่านั้น โซยุนคู ยังคงมุ่งมั่นกับ เลสเตอร์ อย่างจริงจัง แม้เขาจะตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจาก แมนเชสเตอร์ซิตี้ ก็ตาม โดยปราการหลัง “ไก่งวง” มีการพูดคุยล่วงหน้าเกี่ยวกับข้อตกลงใหม่กับ “สุนัขจิ้งจอก” ที่ได้รับการปรับปรุง
“ผมเป็นผู้เล่นของ เลสเตอร์ และผมจะทำให้ดีที่สุด ผมทำอย่างนั้นกับทุก ๆ ทีมที่ผมเล่นมา ผมแค่พยายามมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับสโมสร และตอนนี้ผมมีความสุขดี ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน” โซยุนคู กล่าวทิ้งท้าย